IR Press Releases
TEKA โชว์งบปี 65 กวาดรายได้ 1.93 พันลบ. พุ่ง 21.2% บอร์ดใจดีจ่ายปันผลหุ้นละ 0.13 บาท
บมจ. ฑีฆาก่อสร้าง หรือ TEKA โชว์งบการเงินปี 2565 รายได้พุ่งแตะ 1,933.03 ลบ. เพิ่มขึ้น 21.2% จากปี2564 อยู่ที่ 1,594.37 ลบ. เหตุเร่งงานก่อสร้างโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ด้าน “วีระศักดิ์ วานิชวัฒน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยตัวเลขกำไรใกล้เคียงปีก่อน แม้เผชิญภาวะท้าทาย-การแข่งขันสูง เน้นสูตรบริหารจัดการที่ดี-คุณภาพตอบโจทย์-ส่งมอบงานตรงเวลา พร้อมทิ้งท้าย ชูตัวเลขทางการเงินแข็งแกร่ง หลังตัวเลข D/E ปรับลดลงเหลือ 0.81 เท่า จากเดิมอยู่ที่ 1.75 เท่า แถมบอร์ดใจดีจ่ายปันผลหุ้นละ 0.13 บาท ติดเครื่องหมาย Record date 10 มี.ค. และกำหนดจ่ายเงิน 24 พ.ค. พร้อมเชิญประชุม AGM 26 เม.ย. 2566
นายวีระศักดิ์ วานิชวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฑีฆาก่อสร้าง จำกัด (มหาชน) หรือ TEKA เปิดเผยว่า บริษัทฯ รายงานผลการดำเนินงานปี 2565 (ม.ค.-ธ.ค. 2565) มีรายได้จากการก่อสร้างรวม 1,933.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.2% จากปี 2564 ที่ทำได้ 1,594.37 ล้านบาท เนื่องมาจากการเร่งรัดงานก่อสร้างในโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดย TEKA มีโครงสร้างรายได้ทั้งหมดมาจากงานภาคเอกชน
สำหรับค่าใช้จ่ายในปี 2565 บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายบริหารลดลง 0.01 ล้านบาท และมีต้นทุนทางการเงินลดลง 1 ล้านบาท ทำให้ TEKA มีกำไรสุทธิ 119.94 ล้านบาท โดยในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ เน้นการบริการจัดการที่ดี ทั้งนี้ TEKA ให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้า และสร้างผลงานที่มีคุณภาพ มาตรฐานดี รวมถึงส่งมอบงานได้ตรงตามเวลาที่กำหนดไว้ ซึ่ง TEKA เป็นแห่งแรกๆ ของบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่ได้มาตรฐาน ISO รวมถึงกระบวนการตรวจสอบและควบคุมคุณภาพ QA (Quality Assurance) และ QC
"ในปี 2565 TEKA เรามีความสามารถรักษากำไรได้ดี ทำให้ผลประกอบการรวมทั้งปีบริษัทฯ มีผลกำไรปี 2565 อยู่ที่ 120 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 2564 ที่มีกำไรอยู่ที่ 127 ล้านบาท ถือว่าเป็นตัวเลขใกล้เคียงเดิม แม้บริษัทฯ ต้องเผชิญกับภาพรวมการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่สูงขึ้น แต่ TEKA ยังสามารถรักษาอัตราการรับงานใหม่ และส่งผลให้รายได้รวมมีการเติบโตได้ดี "นายวีระศักดิ์ กล่าว
ส่วนสินทรัพย์รวม ณ 31 ธันวาคม 2565 TEKA มีสินทรัพย์รวม 1,357.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 82.86 ล้านบาท หรือ 6.5% ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ขณะที่มีหนี้สินรวม 605.50 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า 206.04 ล้านบาท หรือ 2.4% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลดลงจากหนี้สินที่เกิดจากสัญญา ทำให้มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) จาก 1.75 เท่า ลดลงเป็น 0.81 เท่า
นายวีระศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2566 ได้มีมติอนุมัติจัดสรรกำไรสุทธิประจำปี 2565 เป็นเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท แต่เนื่องจากบริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.07 บาท จึงคงเหลือจ่ายปันผลสำหรับงวดนี้ในอัตราหุ้นละ 0.13 บาท กำหนดจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record date) วันที่ 10 มีนาคม 2566 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 24 พฤษภาคม 2566 ทั้งนี้กำหนดเชิญประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 เพื่ออนุมัติการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวในวันที่ 26 เมษายน 2566